กติการูเล็ต รูเล็ตออนไลน์ ฉบับย่อ เผยทุกอัตราการจ่ายเงิน
กติการูเล็ต เบื่อไหมกับการ นั่งอ่านคำอธิบาย กติการูเล็ต saเดิมพันอะไรสักอย่าง แล้วทำให้คุณรู้สึก งงงวยมากกว่าเข้าใจ ซึ่งบางที เชื่อว่าสิ่งนี้ อาจจะเป็นหนึ่ง ในองค์ประกอบ ที่ทำให้การเดิมพัน ของคุณ ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะต้องเล่น แบบเดาสุ่มก่อน หรือ บางคนอาจจะต้องจำยอม กดรับโบนัส เพื่อให้ได้เงิน จำนวนมาก สำหรับการทดลองเล่น แต่ปัญหา ที่ตามมาก็คือ คุณต้องทำ เทิร์นโอเวอร์ ดังนั้นบทความนี้ จึงจะพาคุณ ไปดู กติการูเล็ต อธิบายแบบรวบรัด ฉบับเข้าใจง่าย มั่นใจได้ว่า อ่านจบเข้าใจ ทุกซอกทุกมุม ของการเดิมพันแน่นอน สูตรเล่นพนัน
รูเล็ตจริง ๆ แล้ว มีทั้งหมดกี่ช่อง
ที่จริงนะรูเล็ต จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ รูเล็ตยุโรป และ รูเล็ตอเมริกา ซึ่งอุปกรณ์ในการเล่น ก็ไม่ต่างกัน นั่นก็คือ มี วงล้อรูเล็ต ที่เต็มไปด้วย ตัวเลข และ ลูกเหล็กกลม ๆ ที่กลิ้งไปมาได้ แต่จะมีความต่าง อยู่ 1 สิ่งก็คือ ตารางรูเล็ต
โต๊ะรูเล็ตแบบยุโรป จะมีเพียง 37 ช่อง
แบ่งออกเป็น สีเขียว 1 ช่อง สีแดง 18 ช่อง สีดำ 18 ช่อง มีหมายเลข ให้เลือกเดิมพัน ตั้งแต่ 0-36
โต๊ะรูเล็ตแบบอเมริกา มีทั้งหมด 38 ช่อง
แบ่งออกเป็น สีเขียว 2 ช่อง สีแดง 18 ช่อง สีเขียว 18 ช่อง โดยมีหมายเลข ให้เลือกวางเดิมพัน คือ 00, 0 – 36
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่ นิยมวางเดิมพัน รูเล็ตคือ แบบยุโรปมากกว่า เพราะอย่างน้อย ก็ลดความเสี่ยง จากการเดิมพันไป 1 ช่อง
รูปแบบการ วางเดิมพันรูเล็ต ที่ได้รับความนิยม
เกมที่สามารถดิ้นได้ มีรูปแบบการเดิมพัน ที่หลากหลาย และ ความยากง่ายของการจ่ายเงิน ก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบ เดิมพันที่คุณเลือก
1.เลือกเฉพาะตัวเลข อัตราการจ่ายเงิน 1 : 35
เป็นการวางแบบเต็ง คือเมื่อคุณรู้สึกถูกใจ หรือ ต้องการเดิมพันเลขใด ก็สามารถวางเงิน ลงได้ที่หมายเลขนั้น แบบโดด ๆ ได้เลย หากทายถูก อัตราการจ่ายสูงมาก
2.เลือกเลขคู่ – คี่ อัตราการจ่ายเงิน 1:1
หากต้องการวาง เลขคู่ซึ่งได้แก่ 2, 4, 6….36 หรือต้องการ วางเลขคี่ ซึ่งได้แก่ 1, 3, 5…..35 สามารถเลือก วางเงินได้ที่ช่อง EVEN หรือ ODD เป็นวิธีการเดิมพัน ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
3.เลือกเฉพาะสีดำ – แดง
วิธีการเดิมพันแบบนี้ ก็ไม่ต่างกันวางเงินแบบคู่คี่ เพียงแต่สีจะมี การกระจายกัน โดยสีแดงมี 18 ช่อง และสีดำอีก 18 ช่อง
4.เลือก 0 หรือ 00 อัตราการจ่ายเงิน 1:36 และ 1:37
ซึ่งเลขทั้งสองตัวนี้ จะเป็นตัวเลขเอกเทศ ไม่มีการเข้ากลุ่ม และ มีการใช้สีเขียว ซึ่งเป็นสีที่แตกต่าง จากหมายเลขอื่น ๆ และที่สำคัญคือโอกาส ที่จะออกหมายเลข 0 หรือ 00 มีค่อนข้างน้อย จึงไม่ค่อยนิยม วางเดิมพันช่องนี้
5.เลือกเลข 1- 12 อัตราการจ่ายเงิน 1:2
เรียกอีกแบบว่า Dozen เป็นการทายว่า รูเลตจะกลิ้งลงไปตก ในเลขใดก็ได้จาก 1- 12
6.เลือกเลข 13 – 24 อัตราการจ่ายเงิน 1:2
หากรูเลตจะกลิ้งลงไปตก ในเลขใดก็ได้จาก 13-24 คุณก็จะได้รับเงินเดิมพัน
7.เลือกเลข 25 – 36 อัตราการจ่ายเงิน 1:2
การเดิมพันโดยทาว่า ผลของรูเล็ตจะออก 25-36 ซึ่งเดิมพันแบบนี้ ได้รับความนิยมมาก เพราะอัตราการจ่ายกำลังดี
8.เลือกแทงสูง – ต่ำ
เพราะรูเล็ตมีการเล่น คล้ายไฮโล ย่อมต้องมีการเปิด ให้แทงสูง – ต่ำ เป็นธรรมดา หากแทงสูง หมายถึงการเลือก เลข 19 – 36 และ แทงต่ำ หมายถึง 1- 18 เป็นต้น
9.เดิมพันแบบแนวนอน อัตราการจ่ายเงิน 1:2
โดยจะมีช่องคอลัมน์ ให้เลือก 3 ช่อง คือ 1st, 2nd และ 3rd โดยทั้งสามช่อง จะครอบคลุมตัวเลขถึง 12 ตัว ด้วยกัน และ สามารถเลือกวางได้ ในมุมขวามือของโต๊ะเดิมพัน
10.เลือกเดิมพัน 2 ตัวเลขที่อยู่ติดกัน อัตราการจ่ายเงิน 1:17
หากต้องการ วางเฉพาะเลข 9 กับ 10 หรือเลขอื่น ๆ ที่อยู่ติดกัน สามารถวางตรงเส้น กึ่งกลางระหว่างตัวเลข ทั้งสองได้เลย
11.เลือกเดิมพันตัวเลข 4 ตัว อัตราการจ่ายเงิน 1:8
เดิมพันประเภทนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เดิมพันมุม คือคุณสามารถเลือก วางเดิมพันในตัวเลข 4 ตัว ที่ใช้มุมร่วมกัน หากผลออกเลขใดเลขหนึ่ง ก็ถือว่าชนะการเดิมพัน
กติการูเล็ต ต่างจาการเดิมพัน ประเภทอื่นอย่างไร
กติกาของการเล่นรูเล็ต ก็ไม่แตกต่างกัน กับ การเดิมพันคาสิโนสด ประเภทอื่น ซึ่งจะให้บริการ โดยดีลเลอร์สาวสวย เธอจะมาปั่น ลงล้อแล้วปล่อยให้ลูกเหล็ก หมุนจนกว่าจะตกลงไป ในช่องตัวเลข
โดยที่คุณมีเวลา ในการเลือกวางเดิมพัน ประมาณ 40 วินาที สามารถวางเงิน ได้มากกว่า 1 ช่อง ซึ่งเป็นข้อดี ที่ทำให้หลายคนนิยม เล่นรูเล็ต เมื่อลูกเหล็กหยุดหมุน และ ตกลงไปในช่องตัวเลข ที่มีสีกำกับอีกที หากชนะการเดิมพัน เงินก็จะกลายเป็นของคุณ และเริ่มเดิมพันเกมใหม่ต่อไป
กติการูเล็ตไม่ได้ยาก อย่างที่คิด และมีรูปแบบการเดิมพัน ที่มากกว่าที่เรานำมาแสดง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใคร เป็นผู้ให้บริการ เพราะบางรูปแบบการเดิมพัน บางเว็บไซต์ยังไม่เปิดให้เล่น และ เราหวังว่าการเล่นรูเล็ตครั้งนี้ จะทำให้คุณพบแต่ความโชคดี